2t
แฟนคลับ
ไร้คอนเซปต์
 
ผลงาน: 193
ออฟไลน์
เพศ: 
พลังสะสม: 1669
|
|
« เมื่อ: พฤษภาคม 11, 2007, 05:07:10 PM » |
|
ภาษานี้ผมว่าน่าจะเวิค์กอ่ะนะ จากที่ลองศึกษาในด้านต่างๆ ทั้ง \ C/C++ ก็โอเคครับแต่การเขียนนั้นผมไม่ค่อยชอบที่ว่ามันต้องเข้าหน้าโปรแกรม คล้ายๆ dos เต็มจอ เขียนใส่ Edit plus ก็ดี แต่มัก Error เลยไม่เขียน ปล. ได้แระ Hello Word , Get พวกนี้ แระรู้ค่าต่าง PHP ภาษานี้หลักการคล้ายๆกันก่ะ C/C++ แต่ง่ายกว่าตัวช่วยเยอะดีใช้โปรแกรมเขียนเว็บ อันนี้เขียนได้ (ตามหนังสือ ) แต่อ่านแระแก้โค๊ดพอได้ Vb6 อันนี้เห็นจะง่ายสุดมากมายสร้างปุ่มกดสองทีก็ได้แล้วแต่ภาษาอืนสร้างเป็นหน้าๆเลย อันนี้ก็เหมาะสำหรับคนเริ่มเขียน Asembly แต่อันสุดท้ายนี่ผมว่ามันละเอียดมากเป็นการเขียน เข้าใจคอมพิวเตอร์มากมันจะแปลภาษาเป็น เลขฐาน2 16 8 ถ้าเข้าใจล่ะก้อเก่ง แถมยังมีความรู้เรื่อง Dos เหมาะกับการ Hack (HexEdit) จะง่ายมากอ่านค่าได้...
แต่อย่ากให้เก่งที่ละภาษาอ่ะนะ อย่าทำแบบผมสนใจหลายภาษา แต่ไม่ได้เก่งสักภาษา แต่ก็จะค้นหาไปเรื่อยๆว่าอันไหนจะเหมาะกับผม เด๋วซื้อคอมก่ะต่อเน็ตก่อนเหอะจะเริ่มหัดอีกครั้ง มีแต่หนังสือ ไม่มีคนบอก คนสอน ก็ไม่ได้ชวยไรมากนัก แต่ถ้ามีคนแนะนำทางให้เป็นเร็วกว่า 100 เท่า
การเรียนรู้ไม่จำเป็นแต่ในห้องเรียน ผมอ่านเน็ตทุกวันก็พอรู้การทำงานของระบบแล้ว ไปสอบก็ผ่าน (เรื่องคอมนะ) คุณรู้รึป่าวคำสั่งไหนใช้ทำไร คำสั่งพวกนี้มีผลอย่างไร telnet tracert nmap (-sP) shall
เด๋วมาใหม่ รู้การทำงานของ Nerwork นี่ก็สุดยอด
|
ผ่านพ้นคืนวันที่ทำเพื่อชาติ อีกกี่วันคืนจะได้ทำเพื่อตัวและหัวใจ
|
|
|
ms1234
|
|
« ตอบ #1 เมื่อ: พฤษภาคม 11, 2007, 11:36:24 PM » |
|
ผมสนใจครับ แต่...ผมก็ไม่เคยจะรู้เรื่องเลย ภาษาคอมพิวเตอร์ 1-2 เนี่ย Drop หมดเลย อยากเก่งต้องทำยังไงครับ และซื้อหนังสือเล่มไหนเหรอครับ เวลาเปิดเวปไม่เห็นเจอเลย รบกวนเหลาเขาให้หน่อยครับ ผมเรียน คอมพิวเตอร์ศึกษา ยากอ่ะ ถ้าไม่ได้ ภาษาC กับ Java เนี่ย ผมไม่จบชัวร์ รบกวนบอกวิธีหน่อยนะจะ+ให้เยอะๆและคาราวะเลยครับ ปล.เรียนไม่รู้เรื่องเลยครับ กลัวจังเลย 8 ปีจบ
|
|
|
|
พฤษภาคม 12, 2007, 12:18:49 AM
GayDuTwo
บุคคลไม่รู้ว่าใคร
|
|
« ตอบ #2 เมื่อ: พฤษภาคม 12, 2007, 12:18:49 AM » |
|
1. จะเรียนภาษาอะไร ต้องรู้โครงสร้างของมัน 2. ไม่ควร เรียนอะไรที่มันหลายๆภาษา ให้เรียนเจาะลึกซักภาษา ไม่งั้นจะงงไปหมด 3. ลองหาโค๊ด โปรแกรม ง่ายๆ มาน่างแปลดู ว่าหลักการมันเปงยังไง 4. ต้อง เข้าใจ คำสั่ง เบื้องต้น ของภาษานั้นๆด้วย 5. ศึกษาเรื่อยๆ เด๋วก้อเก่ง เชื่อผม ผม ก้อพอเปงศึกษาเรื่อยๆอ่าคับ เด๋วก้อเก่ง คับ
|
|
|
|
2t
แฟนคลับ
ไร้คอนเซปต์
 
ผลงาน: 193
ออฟไลน์
เพศ: 
พลังสะสม: 1669
|
|
« ตอบ #3 เมื่อ: พฤษภาคม 12, 2007, 09:25:03 AM » |
|
ผมสนใจครับ แต่...ผมก็ไม่เคยจะรู้เรื่องเลย ภาษาคอมพิวเตอร์ 1-2 เนี่ย Drop หมดเลย อยากเก่งต้องทำยังไงครับ และซื้อหนังสือเล่มไหนเหรอครับ เวลาเปิดเวปไม่เห็นเจอเลย รบกวนเหลาเขาให้หน่อยครับ ผมเรียน คอมพิวเตอร์ศึกษา ยากอ่ะ ถ้าไม่ได้ ภาษาC กับ Java เนี่ย ผมไม่จบชัวร์ รบกวนบอกวิธีหน่อยนะจะ+ให้เยอะๆและคาราวะเลยครับ ปล.เรียนไม่รู้เรื่องเลยครับ กลัวจังเลย 8 ปีจบ
ภาษาซีนั้นหรือครับมีเยอะแยะครับสอนเรืองภาษาซี (เบื้องต้น) การศึกษาการทำงานของมันครับ เลขฐาน8 ใช้คำว่าไร เลขหนังสือใช้อ่ะไร หนังสือที่ผมแนะนำ ไปที่ร้านหนังสือซีเอ็ดครับมุมคอมพิวเตอร์ มันจะสรุปมาให้แล้ว เล่มสีขาวๆ อ่านไปเรื่อยๆก่อนเด๋วจะเข้าใจการทำงานของมันเอง มีรูปภาพประกอบ มีแบบฝึกหัดให้ทำ แต่ถ้าจะเอาแบบเล่มใหญ่ๆ จะต้องนานๆๆเพราะมันไม่ได้สรุปให้มีข้อมูลเนื้อๆเลย สวน Java นั้นการทำงานจะแตกต่างออกไปจากภาษาซีซึ้งมันประยุกต์มาใช้งานได้ดีในแฟล็ดฟอร์มพวกมือถือ แต่ภาษานี้ผมไม่เลยลองมาเขียน เคยแต่อ่านผ่านหูผ่านตา ที่ว่า2 ภาษานั้นเค้าคงให้เลือกใช่ไหมครับ ภาษาซีเขียนยากกว่า แต่ได้เนื้อหาความรู้เพียบ แต่ถ้าอยากสอบผ่านต้อง Java
ส่วนเรืองเว็บนั้นถามจารญ์ใหญ๋ผมไหม google มีหมดแระ แต่ถ้าไม่รู้จริงๆผมจะแนะนำให้ ภาษาซีเค้าใช้กันเยอะ ถามใครก็รู้เหมือนมือถือ โนเกีย แต่ภาษาที่ผมจะสนใจใหม่คือ แอสเซ็มบลี
ปล. อย่าลืมศึกษาโครงสร้าง (โฟร์ชาร์ท ให้ดีมันจะวิเคราห์ปัญหาได้ดีที่สุด) ถ้ายังไม่เข้าใจ ไปเข้าคอร์ดเรียนนะจะเป็นเร็วสุดเพราะมีคนแนะนำจะง่ายที่สุด แต่ศึกษาเองงมเอาจะนานหน่อยตามความสามารถคนศึกษา สุดท้ายไม่ต้อง+ ให้หรอกครับผมยินดีช่วยผมก็ไม่ได้เก่งแต่ เล่นเว็บทุกวัน...หนังสือมีเยอะ ...อ่านเข้าไป
|
|
|
|
2t
แฟนคลับ
ไร้คอนเซปต์
 
ผลงาน: 193
ออฟไลน์
เพศ: 
พลังสะสม: 1669
|
|
« ตอบ #4 เมื่อ: พฤษภาคม 12, 2007, 09:56:27 AM » |
|
กฎในการเขียนภาษา C
1. คำสั่งในภาษา C ต้องเขียนด้วยตัวพิมพ์เล็ก 2. ทุกประโยคเมื่อจบประโยคแล้วต้องใช้เครื่องหมาย ; แสดงการจบประโยค ยกเว้นฟังก์ชันที่ตามด้วย ( ) ไม่ต้องปิดท้ายด้วย ; 3. ในหนึ่งโปรแกรมจะมีกี่ฟังก์ชันก็ได้แต่จะต้องมีฟังก์ชันที่ชื่อ main เสมอ 4. การใส่หมายเหตุ (Comment) เพื่อใช้เป็นส่วนที่อธิบายโปรแกรมสามารถกระทำได้ 2 รูปแบบ คือ 4.1 /* และ */ ใช้สำหรับข้อความที่ยาวกว่า 1 บรรทัด โดยโปรแกรมจะถือว่าข้อความที่ตามหลัง /*จะเป็นหมายเหตุจนกว่าจะพบเครื่องหมาย */ จึงจะแสดงว่าจบหมายเหตุแล้ว 5. // เหมาะสำหรับข้อความสั้นๆ 1 บรรทัด โดยถ้าบรรทัดใดขึ้นต้นด้วย // บรรทัดนั้นจะถือว่าเป็น หมายเหตุ
ชุดอักขระภาษา C
ภาษา C ใช้ตัวอักษรได้ทั้งเล็กและใหญ่ ตัวเลข 0-9 และตัวอักขระพิเศษในการสร้างองค์ประกอบพื้นฐานของโปแกรม อักขระพิเศษดังกล่าวมีดังนี้
 นอกจากนี้ภาษา C ทุกรุ่นยังยอมให้มีการใช้อักขระอื่นๆ เช่น @ และ $ .ในส่วนที่เป็นสตริงและคำอธิบาย
กฎการตั้งชื่อ
การตั้งชื่อตัวแปรใดๆ ในโปรแกรมจะประกอบด้วยตัวอักษรหรือตัวเลขก็ได้ แต่อักขระตัวแรกจะต้องเป็นตัวอักษรเสมอ การตั้งชื่อตัวแปรสามารถกำหนดเป็นตัวอักษรเล็กหรือใหญ่ก็ได้ แต่ตัวอักษรเล็กและใหญ่ในคำๆ เดียวกันจะมีความหมายต่างกัน เราสามรถใช้ขีดล่าง ( _ ) มาตั้งชื่อก็ได้และสามารถกำหนดให้เป็นอักขระตัวแรกของชื่อก็ได้ ตัวอย่างการตั้งชื่อ เช่น
X y12 sum_1 _temp name area tax_rate TABLE
*** การตั้งชื่อไม่สามารถตั้งชื่อเหมือนกับคำสงวนได้และไม่สามารถเว้นช่องว่างระหว่างชื่อได้ ***
ตัวอย่างการตั้งชื่อที่ผิด
4ht ไม่ได้เพราะ อักขระตัวแรกเป็นตัวเลข x ไม่ได้เพราะ ใช้อักขระไม่ถูกต้อง () order-no ไม่ได้เพราะ ใช้อักขระไม่ถูกต้อง (-) error flag ไม่ได้เพราะ ใช้อักขระไม่ถูกต้อง (blank)
ลำดับหลีก (escape sequences) เป็นตัวอักษรที่ไม่สามารถพิมพ์ได้ เช่น ( ) ,( ) หรือ ( \ ) ถ้าต้องการพิมพ์ออกมาเราจะต้องใช้ \ แล้วตามด้วยอักขระที่ต้องการ มีลำดับหลีกที่ใช้ทั่วไป ดังนี้
อักขระ escape sequences ค่า ASCII bell (กระดิ่ง ) \a 007 backspace \b 008 แท็บตามแนวนอน \t 009 ขึ้นบรรทัดใหม \n 010 แท็บตามแนวตั้ง \v 011 ขึ้นหน้าใหม่ \f 012 ปัดแคร่ \r 013 อัญประกาศ \ 034 อะโพสโตรฟิ \ 039 เครื่องหมายคำถาม \? 063 แบ็กสแลช \\ 092 นัล \0 000
จากข้อมูลที่กล่าวมาทั้งหมดนั้นจะช่วยบอกรูปแบบการเขียนภาษา C ให้เราได้มากขึ้นเพื่อนนำไปใช้เขียนโค้ดได้อย่างถูกต้อง ซึ่งกฎเหล่านี้อาจจะนำไปใช้กับการเขียนโปรแกรมภาษาอื่นๆ ได้อีกด้วย เพราะโครงสร้างของภาษาคอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่มักจะไม่ต่างกันมากนัก เราไม่ควรละเลยกฎเหล่านี้เพราะมันอาจจะทำให้เราเสียเวลาในการค้นหาและแก้ไขจุกบกพร่องของโปรแกรมเมื่อเกิดข้อผิดพลาดได้
แนะนำเว็บ
http://www.webthaidd.com/develop-c/
|
|
|
|
2t
แฟนคลับ
ไร้คอนเซปต์
 
ผลงาน: 193
ออฟไลน์
เพศ: 
พลังสะสม: 1669
|
|
« ตอบ #5 เมื่อ: พฤษภาคม 14, 2007, 10:32:55 AM » |
|
ลองไปดูแย้วอ่ะ ยากมากๆ แต่ว่า ตัวนี้ประมวลผลเร็วสุด แต่เสียตรง จะประมวลผลได้เฉพาะเครือง
|
|
|
|
ms1234
|
|
« ตอบ #6 เมื่อ: พฤษภาคม 14, 2007, 03:09:06 PM » |
|
สรุป ยังไม่เข้าใจครับ แหะๆ ส่วนภาษา C กับจาว่าเป็นวิชาบังคับครับ ยังไม่ผ่านซักวิชาเลย สงสัยต้องสิงเวปนี้อยู่นานแน่เลย +ให้แย้วน้า
|
|
|
|
2t
แฟนคลับ
ไร้คอนเซปต์
 
ผลงาน: 193
ออฟไลน์
เพศ: 
พลังสะสม: 1669
|
|
« ตอบ #7 เมื่อ: พฤษภาคม 14, 2007, 04:19:24 PM » |
|
ว่างๆก็ไปเล่นบอร์ดผมมั้งนะครับ http://One2t.122mb.com/smf/index.php บอร์ดผมเอง http://smf.na-man.com บอร์ดคุณ Nick_indy ผมแนะนำให้ซื้อหนังสือมาอ่านแระตั้งใจฟังเวลาอาจารย์สอนครับ ผมอาจเข้ามาไม่บ่อยแร้วแระครับ
|
|
|
|
พฤษภาคม 22, 2007, 03:25:45 PM
MooZaatAE
บุคคลไม่รู้ว่าใคร
|
|
« ตอบ #8 เมื่อ: พฤษภาคม 22, 2007, 03:25:45 PM » |
|
ถ้าวิธีผมนะครับ.. ในการเรียนภาษา c (structure programing) กะ java (oop) เนี่ย..
ผมใช้วิเขียนภาษา c ให้คล่องก่อน แล้วใช้วิธีการแยกฟังค์ชั่นย่อย แล้วเรียกใช้ใน main เอาครับ..
พอไปทำ java หลักการของ oop จะคล้ายๆ กะการเรียกใช้ function ในภาษา c อ่ะครับ
แต่ก้อไม่เหมือนซะทีเดียว.. พอคล่องแล้ว ค่อยมองหาข้อแตกต่างของ oop อีกที...
ภาษา assembly เป็นภาษาระดับต่ำ โครงสร้างภาษาเป็นแบบ structure คับ
ทำงานระดับ bit เดี๋ยวนี้ไม่นิยมนำมาเขียน โปรแกรม หรือ application
แต่ยังมีใช้งานในการทำงานติดต่อกับ hw คับ..
แต่ asm นี่เร็วมากๆ ผมก็ชอบเหมือนกันครับ..
|
|
|
|
|